วิธีรักษาสุขภาพตับให้แข็งแรง

ตับ

ตับ ทุกคนมีจำกัดนะครับ และหน้าที่ของตับก็สำคัญมากๆ การดูแลรักษาสุขภาพตับให้แข็งแรงเป็นสิ่งจำเป็นสุดๆ ลองคิดสภาพไม่มีตับกรองของเสียออกให้ แปบเดียวก็ตายแล้วครับ กลับดาวภายใน 1 อาทิตย์เลยแหละ

ถ้าร่างกายคนเราไม่มี “ตับ” จะเกิดอะไรขึ้น?

น่าคิดนะครับคำถามนี้ สำหรับใครที่กินเหล้าหนักๆไม่มีการดูแลรักษาตับบอกเลยว่า ตับของเราทำหน้าที่ได้หนักมากครับ ถ้าเสียหายเฉียบพลัน = ชีวิตจบทันทีครับ สำคัญมากจริงๆ

ถ้าร่างกายไม่มีตับจะเกิดอะไรขึ้น?

ตับมีหน้าที่สำคัญมากมาย เช่น:

  1. กรองสารพิษในเลือด (รวมถึงแอลกอฮอล์ ยา ของเสียจากการย่อยอาหาร)
  2. ผลิตน้ำดี (bile) เพื่อช่วยย่อยไขมัน
  3. สังเคราะห์โปรตีนในเลือด เช่น อัลบูมิน และโปรตีนที่ช่วยให้เลือดแข็งตัว
  4. ควบคุมระดับน้ำตาล (เปลี่ยนกลูโคสเป็นไกลโคเจนเก็บไว้ และปล่อยเมื่อต้องใช้)
  5. สะสมวิตามินและแร่ธาตุ เช่น วิตามิน A, D, B12, เหล็ก

ถ้าตับ “หายไป” เลย = ระบบเหล่านี้ล้มละลายแบบเฉียบพลัน:

  • เลือดจะเต็มไปด้วยของเสีย
  • ร่างกายจะไม่สามารถย่อยไขมันได้ → ท้องเสียรุนแรง
  • เลือดแข็งตัวไม่ได้ → มีเลือดออกง่าย / ภาวะเลือดออกในสมองหรือในลำไส้
  • ภาวะสมองสับสนจากพิษในเลือด (hepatic encephalopathy)
  • ระดับน้ำตาลในเลือดตกต่ำแบบอันตราย
  • ไตเริ่มล้มเหลวตาม (hepatorenal syndrome)

เมื่อทุกอย่างเริ่มพังยังไงก็ไม่รอดครับ แถมไตมาพังไปด้วยหลังจากตับ คิดว่าจะรอดกันไหมครับ?

ถ้าตับ “หยุดทำงานทั้งหมด” (acute liver failure แบบสมบูรณ์)

  • อาการรุนแรงจะเริ่มใน 1–2 วัน
  • เสียชีวิตได้ภายใน 3–5 วัน ถ้าไม่มีการเปลี่ยนตับ (liver transplant)
  • ผู้ป่วยจะหมดสติ → อวัยวะล้มเหลวหลายระบบ → เสียชีวิต

แต่อยากบอกว่า “ไม่มีอะไรสายเกินไป” ครับ สำหรับใครที่รู้ซึ้งถึงความสำคัญของตับแล้ว ตับก็พร้อมจะฟื้นฟูให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้งได้ถ้าหากยังไม่เสียหายถาวรครับ

ตับ

วิธีดูแลตับให้แข็งแรง (ทำได้ในชีวิตประจำวัน)

  1. เลี่ยงแอลกอฮอล์หรือลดให้ได้มากที่สุด
  • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์คือ ศัตรูหลักของตับ
  • แม้ดื่มน้อยแต่ดื่มบ่อย → ตับต้องทำงานหนักสะสม
  • ถ้าดื่มเป็นนิสัย → เพิ่มโอกาสเสี่ยง “ไขมันพอกตับ” และ “ตับแข็ง”
  1. กินอาหารที่ดีต่อตับ
  • เลือกอาหารที่ช่วยลดภาระการทำงานของตับ เช่น:

    • ผักใบเขียว (คะน้า, ผักโขม, บรอกโคลี)
    • ผลไม้มีไฟเบอร์สูง (แอปเปิล, กล้วย, อะโวคาโด)
    • ปลาทะเลไขมันดี (แซลมอน, ซาร์ดีน)
    • กระเทียม, ขมิ้น, ชาเขียว (มีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยตับ)
  1. ควบคุมน้ำหนัก ไม่ให้อ้วนเกิน
  • ไขมันส่วนเกินจะไปสะสมที่ตับ (NAFLD: ไขมันพอกตับที่ไม่เกี่ยวกับแอลกอฮอล์)
  • ลดคาร์โบไฮเดรตขัดสี เช่น ข้าวขาว ขนมหวาน น้ำอัดลม
  1. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
  • วันละ 30 นาที ช่วยลดไขมันในร่างกายและในตับ
  • กระตุ้นให้ตับขจัดไขมันและสารพิษได้ดีขึ้น
  • ถ้านั่งกดหวยไว ก็ลองเปลี่ยนเป็นเดินกดก็จะดีมากกว่าครับ
  1. ดื่มน้ำสะอาดมากพอ
  • ตับต้องใช้น้ำในการขจัดของเสีย
  • แนะนำ 6–8 แก้วต่อวัน (หรือมากกว่านั้นถ้าออกกำลังกาย)
  1. หลีกเลี่ยงยาที่ส่งผลต่อตับ
  • ยาแก้ปวดพาราเซตามอล (ถ้าเกินขนาด)
  • อาหารเสริมที่ไม่ผ่าน อย. หรือกินหลายตัวซ้อนกันโดยไม่จำเป็น
  • ยาสมุนไพรบางชนิด (เช่น สารบางตัวในเห็ดหลินจือ หรือสมุนไพรจีน) อาจมีพิษต่อตับถ้าใช้ผิดวิธี
  1. ตรวจสุขภาพตับทุกปี
  • ตรวจ SGOT / SGPT / Ultrasound ตับ
  • โดยเฉพาะถ้ามีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ เคยติดไวรัสตับอักเสบ B/C
  1. ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ B (และ A หากจำเป็น)
  • ตับอักเสบเรื้อรังจากไวรัสเป็นต้นเหตุของมะเร็งตับในระยะยาว
  • วัคซีนไวรัสตับ B เป็นเข็มพื้นฐานที่ควรมีไว้ตั้งแต่เด็ก (หากยังไม่เคยฉีดควรตรวจและฉีดให้ครบ)

เคล็ดลับเสริมการดูแลตับ

ถ้าอยากเน้นการ “ฟื้นฟูตับ” หรือรู้สึกว่าใช้งานตับหนัก (เช่น ดื่ม, พักผ่อนน้อย)
อาหารเสริมที่อาจช่วยได้ เช่น Milk Thistle (ซิลิมาริน), วิตามิน E, วิตามิน B-complex (แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อน)

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *