ไวรัสตับอักเสบ บี น่ากลัวหรือรักษาได้

ไวรัสตับอักเสบ บี เป็นอะไรที่เสี่ยงต่ออวัยวะสำคัญอย่างตับมากที่สุดครับ มีความเสี่ยงที่จไวรัสตับจะทำให้เกิดอาการตับแข็ง ตับอักเสบ รวมถึงมะเร็งตับได้สูงกว่าคนทั่วไปถึง 70% ซึ่งมีระยะตั้งแต่เฉียบพลัน ไปจนถึง เรื้อรัง

ความน่ากลัวของไวรัสตับอีกเสบ บี สามารถส่งผลต่อสุขภาพได้หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง นอกจากโรคที่กล่าวไปแล้วยังสามารถนำภาวะแทรกซ้อนสู่ร่างกายได้อีกด้วยครับ

ไวรัสตับอักเสบ บี

ไวรัสตับอักเสบ บี น่ากลัวแบบนั้นจริงไหม ?

ไวรัสตับอักเสบ บี จะน่ากลัวหรือไม่น่ากลัวขึ้นอยู่กับคนที่เป็นด้วยครับ เพราะบางคนเป็นแล้วก็ยังไปกินเหล้า กินของปิ้งย่าง กินอะไรที่ทำร้ายตับเป็นประจำยังไงร่างกายก็รับไม่ไหวครับ บางครั้งอาการอาจจะร้ายแรงได้มากกว่าที่เขียนไปด้วยครับ

ส่วนในด้านคนดูแลสุขภาพ ดูแลรักษาทั้งออกกำลังกาย และอาหารการกินจะสามารถยืดระยะเวลาของตับอักเสบออกไปได้ครับ และเวลาที่ตับอักเสบก็จะรักษาง่ายกว่าแบบที่ 1 ด้านบน

ถ้าถามว่าน่ากลัวไหมทุกโรคน่ากลัวทั้งหมดครับ ส่วนไวรัสตับอักเสบทุกชนิดนั้นเราต้องรู้ตัวว่าเราควรจะเริ่มรักษาตอนไหน ต้องปฏิบัติตัวยังไงความน่ากลัวของไวรัสตับก็จะลดลงไปได้เยอะครับ

ตับจะเริ่มอักเสบตอนไหน เมื่อมี ไวรัสตับอักเสบ บี ในร่างกาย

ใครที่มี ไวรัสตับอักเสบ บี ในร่างกายจะหนีอาการตับอักเสบไปไม่ได้ครับ สักวันตับก็ต้องอักเสบขึ้นอยู่ที่ว่าอายุเท่าไหร่

  • โดยส่วนมากผู้ชายจะเริ่มตับอักเสบในวัย 40 ปี
  • โดยส่วนมากผู้หญิงจะเริ่มตับอักเสบในวัย 50 ปี

เมื่อถึงเวลาแพทย์จะทำการรักษาไปพร้อมกับอาการตับอักเสบ เพราะไวรัสตับอักเสบบีนั้นจะสามารถอยู่ในร่างกายได้เรื่อยๆตราบใดที่ตับยังไม่อักเสบ

สาเหตุที่ตับไม่อักเสบ

เนื่องจากภูมิคุ้มกันของร่างกายเรายังมองว่าไวรัสที่มีอยู่ไม่ใช่สิ่งแปลกปลอม หรือเรียกว่าเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายของเรา แต่ถ้าวันใดวันหนึ่งไวรัสตับอักเสบเกิดการแปรพักเริ่มหันมาทำร้ายร่างกายเรา หรือมีเชื้อเยอะจนเกินไป ร่างกายของมนุษย์จะสามารถรับรู้ได้ทันทีว่า “สิ่งนี้คือไวรัส” เมื่อนั้นตับก็จะเริ่มอักเสบ และทำกระบวนการฆ่าเชื้อ ตอนนั้นถึงจะเริ่มการรักษาครับ

ในกระบวนการรักษาอาจจะต้องเตรียมตัวนอนโรงพยาบาลเผื่อไว้กันภาวะตับวาย ประมาณ 2-3 วันครับ เพราะเมื่อตับอักเสบจะมีไข้ขึ้น ปวดท้อง เดินแทบจะไม่ได้เลย อาจเกิดภาวะต่างๆตามมาได้ครับ ใครที่ไม่ชอบนอนโรงพยาบาลก็อาจจะต้องฝืนนอนสัก 2-3 คืน จะนอนเล่นหวยไวรอก็ได้ครับ แปบๆก็หมดวันแล้ว

ไวรัสตับ

เป็นไวรัสตับอักเสบ บี มีสิทธิ์หายขาดไหม ?

ในปัจจุบันการรักษามีเปอร์เซ็นต์หายขาดโดยไม่มีเชื้ออยู่ในร่างกายเลยอยู่ที่ 10-30% แล้วแต่บุคคลครับ แล้วอีก 70-90% มีเชื้ออยู่สามารถกลับมาเป็นได้ไหม ต้องบอกว่าได้เสมอ ถ้าร่างกายยังไม่ผลิตภูมิครับ หากเป็นแบบนั้นผู้ป่วยโรคนี้ก็ต้องกินยาตลอดชีวิตเหมือนกับโรคหัวใจ

ซึ่งถ้าหากวันใดวันหนึ่งร่างกายผลิตภูมิคุ้มกันได้แล้ว ก็สามารถหยุดกินยาได้เลยครับ

ยารักษา ไวรัสตับอักเสบ บี มีอะไรบ้าง

Nucleos(t)ide analogs

  • Entecavir (Baraclude): เป็นยาในกลุ่ม nucleoside analog ที่มีประสิทธิภาพในการยับยั้งไวรัสตับบี
  • Tenofovir (Viread): อีกหนึ่งยาในกลุ่มนี้ที่ใช้ได้ผลดีและได้รับการยอมรับ
  • Lamivudine (Epivir-HBV): ยาที่ใช้สำหรับการรักษาไวรัสตับบี ซึ่งไม่ใช่ตัวเลือกแรกในปัจจุบัน เพราะมีความต้านทานได้ง่าย

การใช้ยากลุ่มนี้จะช่วยลดปริมาณไวรัสในร่างกาย และช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากไวรัสตับบี

Interferon alpha

  • Interferon (เช่น Peginterferon alfa-2a) เป็นยาที่ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ต่อสู้กับไวรัสตับบี โดยการใช้ interferon มีข้อดีคือสามารถหยุดการรักษาหลังจากใช้ไปประมาณ 6 เดือน แต่ก็มีผลข้างเคียงที่ทำให้ผู้ป่วยบางคนไม่สามารถใช้ได้ เช่น ไข้, หนาวสั่น, ปวดหัว, อ่อนเพลีย

สรุป

ไวรัสตับอักเสบ บี จะน่ากลัวก็ต่อเมื่อเราทำกิจกรรมทำร้ายตับอย่างการดื่มแอลกอฮอล หรือกินของไหม้เยอะๆที่ส่งผลต่อตับโดยตรง และจะน่ากลัวอีกครั้งเมื่ออายุ 40-50 ปีครับ

หากใครดูแลตับเป็นอย่างดี อายุยังน้อยก็ไม่น่ากลัวเลย สิ่งที่ต้องระวังเพียงอย่างเดียว คือ ระวังอย่าให้ไปติดคนอื่นผ่านทางเลือด หรือสารคัดหลั่งทั้งหมดของร่างกายครับ ทั้งหมดทั้งมวลสามารถรักษาได้ และสามารถหายขาดจากโรคนี้ได้หลังการทำการรักษาครับ